|
1#
พิมพ์หน้านี้
tT
กล้องถ่ายภาพความร้อน (Thermal Imaging Camera)
อุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญมากในชีวิตประจำวันของเรา และถูกนำมาใช้ในหลายๆ ด้าน เช่นเพื่อตรวจดูว่าเราป่วยหรือไม่ อาหารถูกปรุงสุกหรือไม่หรือถ้ารถของท่านร้อนเกินไป กล้องถ่ายภาพความร้อนทำการวัดอุณหภูมิในอีกระดับหนึ่งแทนที่จะใช้ตัวเลขบอกค่าอุณหภูมิ ,ท่านสามารถได้ภาพถ่ายที่แสดงความแตกต่างของอุณหภูมิที่ผิว ภาพถ่ายความร้อนหรือที่รู้จักกันในชื่อเทอร์โมกราฟีเป็นเทคนิคในการสร้างภาพจากแสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็น (ด้วยตาเปล่า)ที่แผ่กระจายออกจากวัตถุโดยการใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนกล้องถ่ายภาพความร้อนสามารถทำการสแกนพื้นผิวของวัตถุโดยที่ไม่มีการทำลายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งทำให้ตรวจหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหรือความเสียหายซึ่งจะทำให้สามารถลดเวลาในการแก้ไขปัญหาและการบำรุงรักษา
กล้องถ่ายภาพความร้อนมองเห็นอะไร ?
กล้องถ่ายภาพความร้อนจะมองไม่เห็นภาพจริง แต่มันจะจับพลังงานรังสีอินฟราเรด(IR)ที่ถ่ายทอดออกมาจากวัตถุไปสู่สิ่งแวดล้อมและสร้างภาพแถบสีที่วัตถุที่ร้อนกว่าจะแสดงสีสว่างและวัตถุที่เย็นกว่าจะแสดงสีมืดกว่า พลังงาน IRสร้างมาจากการสั่นสะเทือนของอะตอมและโมเลกุลและมีพฤติกรรมคล้ายกับแสงสว่างที่มองเห็น ซึ่งสามารถสะท้อน, หักเห, ดูดซับและเปล่งแสงยิ่งโมเลกุลเหล่านี้เคลื่อนไหวมากก็จะทำให้อุณหภูมิของวัตถุสูงขึ้น
กล้องถ่ายภาพความร้อนสามารถใช้งานอะไรได้บ้าง ?
กล้องถ่ายภาพความร้อนกำลังกลายเป็นเครื่องมือในการใช้ตรวจสอบในอุตสาหกรรมซึ่งถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบอาคารว่ามีประสิทธิภาพตรงกับสเปค,ใช้ตรวจว่าฉนวนถูกติดตั้งในสภาพที่ดี, หาตำแหน่งอากาศรั่วไหล,ตรวจสอบการออกแบบโครงสร้างและหาตำแหน่งที่มีความชื้นซึมออกมายังมีการใช้งานนอกเหนือจากนี้อีกซึ่งขึ้นอยู่กับการประยุกต์ของผู้ใช้เท่านั้น โดยทั่วไปในปัจจุบันได้นำมาใช้ในการเพื่อหาสภาพต่างๆเช่นการเสื่อมของฉนวนในบ้าน หรือวงจรไฟฟ้าที่โอเวอร์โหลด ตัวอย่างอื่นๆมีดังต่อไปนี้
- การตรวจสอบสถานีจ่ายไฟฟ้าย่อย
- การตรวจสอบความร้อนที่สูญเสียในอาคาร
- การหาตำแหน่งของสายไฟหรือท่อที่มีความร้อน
- การหาตำแหน่งที่เชื้อราเติบโต
- การหาตำแหน่งที่หลังคาอาคารรั่ว
- การหารูปแบบการกระจายความร้อนของท่อไอน้ำ
- การตรวจสอบแบริ่ง
- การตรวจสอบการรั่วของฉนวนในอุปกรณ์ทำความเย็น
อะไรคือความสามารถของกล้องถ่ายภาพความร้อนบ้าง?
โดยพื้นฐานแล้ว กล้องถ่ายภาพความร้อนมีความสามารถในการเก็บภาพความร้อนทั้งในหน่วยความจำภายในหรือในการ์ดความจำขึ้นอยู่กับความสามารถของกล้องถ่ายภาพ เมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพเสร็จ สามารถมองเห็นภาพหรือแก้ไข หรือดาวน์โหลดลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถนำภาพมาใช้ในรายงานและมีซอฟท์แวร์ในการใช้งานรวมอยู่ด้วย สามารถซื้อกล้องถ่ายภาพความร้อนโดยที่เลือกความสามารถน้อยลงได้ซึ่งสามารถอ่านค่าอุณหภูมิที่ตำแหน่งจุดตัดของเส้นกลางจอแสดงภาพขณะที่กล้องถ่ายภาพแบบอื่นๆสามารถให้ผู้ใช้เลือกตำแหน่งของจุดตัดในจอภาพให้เคลื่อนที่ได้และเปรียบเทียบอุณหภูมิระหว่างบริเวณสองพื้นที่ได้กล้องถ่ายภาพความร้อนมีสีหลายสีเช่น ขาว/ดำ , สีเหล็กหรือสีรุ้งซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกได้ สีแบบเหล็กมักจะใช้ในการตรวจสอบบ้าน,สีขาว/ดำจะช่วยในการตรวจหารายละเอียดในรูปภาพและสีรุ้งจะเป็นสีที่ดีที่สุดที่สามารถบอกความแตกต่างของอุณหภูมิได้ให้ดูรูปด้านล่างนี้สำหรับสีตัวอย่าง
| แถบสีเหล็กของฟิวส์บัสบาร์
| แถบสีขาว /ดำ/เทา
| แถบสีรุ้ง
|
| แถบสีโลหะร้อน
| แถบสีอำพัน
| กล้องถ่ายภาพที่ซับซ้อนขึ้นอาจรวมความสามารถต่อไปนี้
| แจ้งเตือนสีซึ่งยอมให้ผู้ใช้เลือกอุณหภูมิและกล้องจะแสดงเฉพาะสีที่อุณหภูมิมากหรือน้อยกว่าที่เลือกเท่านั้น
| ภาพซ้อนภาพ ที่จะแสดงสีอุณหภูมิ(ที่มีขนาดหนึ่งในสี่ของภาพ) ในขนาดภาพมาตรฐาน อุณหภูมิที่อ่านจะจำกัดเฉพาะส่วนนี้ของภาพเท่านั้น
| ระบบ IR ฟิวชั่น ซึ่งให้ผู้ใช้ปรับค่ามากสุดหรือน้อยสุดของอุณหภูมิเทียบกับภาพมาตรฐาน
|
[table][/table]
ฉันจะได้ภาพที่ดีได้อย่างไร ?
การใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนมีความง่ายแต่การแปลความหมายของภาพจะต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ในการช่วยให้ผู้ใช้ได้ภาพที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์มีการปรับค่าสี่แบบที่สามารถทำได้คือ การโฟกัส, การตั้งค่าการแผ่ความร้อน,การเปลี่ยนอุณหภูมิที่สะท้อน และการปรับความร้อน
- เลนส์ของกล้องถ่ายภาพความร้อนจะเหมือนกับกล้องทั่วๆไปที่จะต้องมีการปรับโฟกัสเพื่อเพิ่มความคมชัดของภาพ กล้องส่วนใหญ่สามารถปรับได้โดยการหมุนเลนส์และบางรุ่นที่ซับซ้อนกว่าทำได้โดยการกดปุ่ม
- การแผ่รังสี คือปริมมาณของรังสีที่แผ่ออกมาจากวัตถุเปรียบเทียบกับการแผ่รังสีที่ดีที่สุดเมื่ออยู่ในอุณหภูมิเดียวกัน การตั้งค่าการแผ่รังสีที่น้อยกว่าจะใช้สำหรับวัตถุที่สะท้อนแสงได้มากกว่าและการตั้งการแผ่รังสีที่มากจะใช้สำหรับวัตถุที่สะท้อนแสงได้น้อย วัตถุที่ไม่ใช่โลหะ หรือมีผิวขรุขระจะมีการแผ่รังสีมากกว่า การปรับค่าการแผ่รังสีมีความสำคัญเมื่อทำการวัดอุณหภูมิหรือเมื่อเปรียบเทียบอุณหภูมิของวัตถุสองชิ้นการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้องจะทำให้วัตถุแสดงอุณหภูมิที่ร้อนกว่าหรือเย็นกว่าความเป็นจริง มีกล้องถ่ายภาพเพียงบางรุ่นเท่านั้นที่สามารถตั้งค่าการแผ่รังสีได้ส่วนใหญ่แล้วจะมีค่าที่ตั้งไว้แล้วกับวัสดุประเภทไม้ หรือผนัง
- การตั้งค่าการสะท้อนอุณหภูมิผู้ใช้สามารถชดเชยอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมหรืออุณหภูมิของวัตถุรอบๆ ได้ถ้าสงสัยว่ามีการสะท้อนของอุณหภูมิวัตถุโดยรอบให้ขยับกล้องถ่ายภาพรอบพื้นที่เป้าหมายถ้าจุดที่ร้อนหรือเย็นเปลี่ยนตามกล้อง แสดงว่ามีการสะท้อนจากวัตถุอื่นถ้าไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าเป็นจุดที่ร้อนหรือเย็นจริงในการหาว่าอุณหภูมิที่สะท้อนเป็นเท่าไหร่นั้นผู้ใช้จะต้องปรับค่าการแผ่รังสีของกล้องเป็น 1.0 หลังจากนั้นวางแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ย่นลงบนกระดาษแข็งจับฟอยล์ระหว่างกล้องกับวัตถุที่ต้องการจะมองและสังเกตค่าอุณหภูมิของฟอยล์ หลังจากนั้นใส่ค่าอุณหภูมิของฟอยล์ลงในค่าอุณหภูมิสะท้อนของกล้อง อุณหภูมิสะท้อนมีความสำคัญเหมือนกับค่าการแผ่รังสีเมื่อทำการวัดค่าอุณหภูมิเปรียบเทียบของสองวัตถุมีกล้องบางชนิดเท่านั้นที่สามารถให้ผู้ใช้ใส่ค่าอุณหภูมิสะท้อน
- การปรับความร้อนของกล้องเกี่ยวข้องกับการปรับช่วงของอุณหภูมิที่กล้องจะมองเห็นเมื่ออยู่ในโหมดทำงานด้วยมือกล้องถ่ายภาพความร้อนจะมีโหมดมองภาพอัตโนมัติและโหมดปรับตั้งด้วยมือ เมื่อกล้องอยู่ในโหมดอัตโนมัติกล้องจะปรับสเกลอุณหภูมิตามสิ่งที่มองซึ่งทำให้สีเปลี่ยนไปเมื่อเคลื่อนกล้องส่วนโหมดปรับตั้งด้วยมือสามารถให้ผู้ใช้ปรับช่วงอุณหภูมิได้เองตามที่ต้องการ และกล้องจะแสดงค่าตามช่วงอุณหภูมินั้นเสมอ การใช้โหมดปรับตั้งด้วยมือจะดีที่สุดเมื่อต้องการหาค่าอุณหภูมิที่แตกต่างของวัตถุที่กำลังมอง
มีข้อจำกัดเกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพความร้อนหรือไม่ ?
เนื่องจากพลังงานความร้อนสามารถสะท้อนพื้นผิวที่แวววาวกล้องถ่ายภาพความร้อนจึงไม่สามารถมองผ่านแก้วถ้าคุณยืนอยู่หน้าหน้าต่างขณะมองผ่านกล้องถ่ายภาพความร้อนคุณจะเห็นตัวเองในกระจก เพราะพลังงานความร้อนสามารถสะท้อนกระจกได้ ดังนั้นกล้องถ่ายภาพความร้อนจะไม่สามารถมองผ่านผนังได้เหมือนในภาพยนตร์ฮอลลีวูดกล้องถ่ายภาพความร้อนจึงไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานเพียงอย่างเดียวในการดูว่ามีปัญหาอยู่ แต่ควรใช้อุปกรณ์อื่นๆ ในการยืนยันปัญหาควบคู่ไปด้าวย เช่นบอร์สโคป, มิเตอร์วัดความชื้น, มัลติมิเตอร์ หรือพิมพ์เขียวของอาคาร
ข้อมูลจาก thai-safetywiki |
|