การป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรกล (Working safety with machine)
การป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรกลหรือการทำการ์ดเครื่องจักรหมายถึง การกระทำใดๆ ก็ตามที่ส่งผลให้เครื่องจักรมีลักษณะหรือคุณสมบัติที่ปลอดภัยต่อการปฏิบัติงานอย่างปกติ โดยไม่มีผลต่อสมรรถนะของเครื่องจักรหรือต่อความชำนาญของเครื่องจักรกลนั้นทำงาน
การทำการ์ดเครื่องจักรกลมีหลายลักษณะขึ้นอยู่กับลักษณะของเครื่องจักรกล แบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ
- เครื่องต้นกำลัง (Prime mover machinery)
- เครื่องส่งกำลัง (Transmission machinery)
- เครื่องจักรทำการผลิต (Production machinery)
เป้าหมายในการออกแบบการ์ดเครื่องจักรกล
1. ให้การป้องกันอันตรายตั้งแต้ต้นมือ หมายความว่าเครื่องจักรกลต้องไม่ทำงานหากมีสิ่งแปลกปลอมไปอยู่ในบริเวณอันตรายของเครื่องจักรกลนั้น ลักษณะของการ์ดประเภทนี้ให้ความปลอดภัยสูง
2. ให้การป้องกันมิให้ส่วนของร่างกายเข้าใกล้เขตอันตรายในบางครั้งการควบคุมเครื่องจักรกลในทันทีทันใดอาจจะกระทำไม่ได้หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบ เครื่องจักร ดังนั้นการต่อเติมชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนเข้าไปแล้วป้องกันอันตรายได้จึงเป็นทางเลือกที่ดี
3. ให้ความสะดวกแก่ผู้ทำงานเช่นเดียวกับที่ไม่ใส่การ์ดการ์ดที่ดีไม่ควรรบกวนต่อการทำงานของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการมองการจับชิ้นงาน การควบคุมการทำงานและการตรวจวัดขนาด
4.การ์ดที่ดีไม่ควรขัดขวางผลผลิต การใช้แผ่นกั้นหรือการมีปุ่ม 2 ปุ่มในเครื่องปั๊มขึ้นรูปให้ความปลอดภัยแก่คนงาน อาจจะทำให้ช้าบ้างแต่ก็ต้องยอมรับผลผลิตกับความปลอดภัย ความปลอดภัยต้องมาก่อน
5.การ์ดเครื่องจักรกลควรใช้งานอย่างอัตโนมัติหรือด้วยแรงงานน้อยที่สุดเมื่อเครื่องจักรเริ่มทำงานการ์ดต้องทำงานทันทีถ้ามีการเคลื่อนย้ายเครื่อง ต้องไม่ทำงานอาจจะมีการใช้ตาไฟฟ้าช่วยได้
6. การ์ดควรเหมาะสมกับงานและกับเครื่องจักรนั้นๆ การ์ดที่สวยงามหรูหราและสมบูรณ์แบบนั้น บางครั้งอาจจะไม่มีประโยชน์ในการป้องกันอันตรายเลยเพราะขัดขวางกับการทำงานระหว่างคนกับเครื่อง
7. พนักงานจำเป็นต้องถอดออก
8. การ์ดที่ดีควรมีลักษณะติดมากับเครื่องเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของ เครื่องมีความปลอดภัยในตัวสูงอยู่แล้ว
9. การ์ดที่ดีควรเอื้ออำนวยต่อการเติมน้ำมันหรือซ่อมบำรุงฝาครอบเครื่องจักรที่ปิดครอบชุดเฟืองหรือสายพาน ควรทำ ให้เปิดซ่อมบำรุง
10.การ์ดที่ดีควรทนทานต่อการใช้งานปกติและมีการบำรุงรักษาน้อยที่สุดฝาคือส่วนที่อยู่นอกสุดถ้าไม่แข็งแรง ทนทานอาจเป็นอันตรายต่อชิ้นส่วนภายในได้
11. การ์ดเครื่องจักรที่ดี ควรป้องกันอันตรายที่ไม่ได้คาดหมายได้ดีนอกจากอันตรายที่มองเห็นเฉพาะหน้า หมายความว่า ต้องป้องกันได้ทุกสถานการณ์
การทำงานกับเครื่งจักรต้องระมัดระวัง หลักการทำการ์ดเครื่องจักรกล การทำการ์ดให้เกิดความปลอดภัยในการใช้เครื่องจักรกล มี 4 ประการ สำคัญดังนี้
ก. หลักการป้องกันหรือขัดขวางมิให้เข้าไปสัมผัสจุดอันตรายของเครื่อง ได้แก่
- ออกแบบเครื่องจักรโดยวางจุดอันตรายไว้ภายใน
- จำกัดขนาดของช่องเปิดมิให้มือหรืออวัยวะอื่นเข้าได้
- จัดช่องวางที่เหมาะสมเพื่อป้องกันมิให้เกิดการหนีบอัด หรือกระแทกของอวัยวะระหว่างผิวงานของเครื่องจักร
- แผ่นหรือตะแกรงปิดกั้นถาวร มิให้ส่วนที่มีอันตรายโผล่ หรือเปิดเผย ต่อการสัมผัสได้
เมื่อมีปัญหาควรร่วมกันคิดเพื่อแก้ไข ข . หลักการควบคุมโดยให้มือออกพ้นจากบริเวณอันตราย ได้แก่
- การใช้ปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม
- การใช้ชุดควบคุมที่อยู่ใกล้ (Remote Control)
ค. หลักการเครื่องจะไม่ทำงานถ้าไม่เอามือออกไปจากเขตอันตราย ได้แก่
- การใช้ระบบลำแสงนิรภัย
- การใช้ก้านหรือราวป้องกันที่ควบคุมด้วยเครื่องที่เรียกว่าราวนิรภัยหรือฝาครอบนิรภัย
ง. หลักการปัดให้พ้นเขตอันตรายก่อนทำงาน ซึ่งได้แก่
- เครื่องปัดมือออกก่อนตัด
- ตะแกรงกดหรือกวาดสิ่งกีดขวางก่อนใบมีดจะเคลื่อนไป
การทำงานกับเครื่องจักรที่ใช้มือต้องมั่นใจว่าปลอดภัย ตัวอย่างประยุกต์การใช้งานหลักการทำการ์ดเครื่องจักรกล
1. การจัดช่องเปิดที่ปลอดภัย โดยการทำตะแกรงหรือกรงแผ่นกั้นเพื่อขัดขวางมิให้นิ้วมือเข้าไปสามารถ มองเห็นภายในได้ขนาดที่เหมาะสมของช่องเปิดที่ปลอดภัยเป็นดังนี้
ระยะจากช่องเปิดถึงจุดอันตราย (นิ้ว) | ความกว้างสูงสุดของช่องเปิด (นิ้ว) | 0-1.5 | 1/4 | 1.5-2.5 | 3/8 | 2.5-3.5 | 1/2 | 3.5-5.5 | 5/8 | 5.5-6.5 | 3/4 | 6.5-7.5 | 7/8 | 7.5-8.5 | 11/4 | 2. การใช้ปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม สำหรับการทำงานคนเดียว
ข้อดีของการใช้ปุ่ม 2 ปุ่ม
1. มือของคนงานจะต้องออกจากจุดอันตรายบนเครื่อง
2. มือข้างหนึ่งข้างใดปล่อยจากปุ่ม เครื่องจะไม่ทำงาน
ข้อจำกัดในการใช้การ์ดแบบนี้
1. ใช้ไม่ได้กับงานที่คนงานต้องจับชิ้นงาน
2. เมื่อคลัทช์ชำรุด ชุดหัวอัดอาจทำงานซ้ำเป็นครั้งที่ 2 อาจทำอันตรายแก่มือคนงานได้
3. การใช้ระบบแสงนิรภัย โดยการใช้หลักว่าลำแสงถูกบังจะทำให้เครื่องหยุดทำงานไม่ว่ากรณีใดๆ หากเกิดความบกพร่องต่อระบบแสงทำให้แสงดับ เครื่องจะต้องไม่ทำงาน
ข้อดีในการใช้งาน
1. ไม่มีชิ้นส่วนเครื่องกลที่เป็นวัสดุแข็งหรือโลหะอื่นใดขวางหน้าอยู่ ทำให้สะดวกแก่การทำงานมาก
2. คนควบคุมเครื่องมองเห็นได้ทั่วถึง
3. ใช้กับเครื่องขนาดใหญ่ที่ทำงานหลายแบบ ซึ่งไม่เหมาะกับ การใช้การ์ดชนิดอื่น
ข้อจำกัดในการใช้การ์ดแบบนี้
1. จะใช้กับเครื่องตัดที่สามรถหยุดได้ทุกขณะที่หัวตัดหรือหัวอัดชนิดที่กำลังเคลื่อนตัวลงมาเท่านั้น ชนิดที่เคลื่อนแล้วหยุดจะใช้ไม่ได้บริเวณแสงส่องต้องห่างจากจุดอันตรายมากพอที่จะมีเวลาให้เครื่องหยุดก่อนทัน ก่อนมือจะเข้าไปถึง
2. ต้องมีจำนวนแสงกว้างพอจึงจะปลอดภัย ต้องหมั่นตรวจและซ่อมบำรุง เพราะหากขาดไป 1 ดวงเครื่องจะ ไม่ทำงาน
4. การใช้ก้านนิรภัย ก้านนิรภัยมีหลายลักษณะ ทำงานด้วยการกวาดหรือปัดผ่านหน้าบริเวณอันตราย ก่อนที่อันตรายจะเกิด
ข้อดีในการใช้งาน
1. ใช้ได้กับเครื่องอัดขนาดเล็กๆ เท่านั้น ขนาดกว้างไม่เกิน 6 นิ้ว
2. การเคลื่อนที่ของก้านนิรภัยเป็นไปตามการเคลื่อนที่ของหัวอัดแม้ว่าคลัทช์จะทำงานผิดพลาดทำให้หัวอัด เคลื่อนตัวลงมาแขนนิรภัยก็จะทำงานอีกคู่กัน จึงปลอดภัยกว่า
3. ตัวการ์ดแบบนี้ง่ายแก่การปรับ
ข้อจำกัดในการใช้การ์ด
1. ความยาวของก้านนิรภัยจะต้องมากพอต่อการแกว่งและปัดในระยะที่ยาวเท่ากับความยาวของช่วงอันตราย ถ้างานยาวมากก้านยาวจะไม่สะดวก
2. ในกรณีที่แท่นปั๊มมีขนาดใหญ่ หากมือคนงานเกิดติดอยู่ในแท่นแขนของคนงานอาจหักได้จาก การปัดของก้าน
3. การใช้ก้านนิรภัยมิได้ห่อหุ้มหรือปิดกั้นอันตรายไว้แต่อย่างใด
5. การใช้เครื่องดึงมือออกก่อนการทำงาน
ข้อดีในการใช้งาน
1. เครื่องจะดึงมือคนงานออกทุกครั้งในจังหวะที่หัวอัดเคลื่อนที่ลงมา โดยความตั้งใจหรืออุบัติเหตุก็ตามจึงปลอดภัย
2. อุปกรณ์ดึงมือนี้ต่อกับเครื่องจึงไม่ต้องเพิ่มแรงงานหรือความยุ่งยากใดๆ เพิ่มจากการทำงานปกติของคนงาน
3. ให้ความปลอดภัยสูง หากได้รับการออกแบบและปรับระยะให้เหมาะสม
4. ไม่ขัดขวางหรือบังสายตาคนงานแต่อย่างใด
ข้อจำกัดในการใช้การ์ดนี้
1. ใช้ได้เฉพาะกับระบบงานสมบูรณ์แบบคนงานไม่ต้องเดินไปไหนเท่านั้น
2. เกิดเหตุฉุกเฉินคนงานอาจตกใจและวิ่งหนีออกไปไม่ทัน
3. คนงานอาจละเลยต่อการสวมลวดดึงเข้ากับข้อมือก็ได้
4. การปรับระยะดึงที่เหมาะสมต้องกระทำอยู่เสมอ
5. เมื่อเปลี่ยนชิ้นงานที่มีขนาดผิดไปต้องปรับระยะดึงให้เหมาะสมใหม่
6. หากแท่นหัวเคลื่อนที่สั้นๆ ต้องมีระบบรอกทดสอบ เพื่อขยายระยะชักให้เพียงพอ
7. ต้องใช้เนื้อที่หนาแทนเครื่องบางส่วนในการติดตั้งอุปกรณ์ ทำให้เปลืองเนื้อที่ไปบ้าง
6. การใช้แผ่นกั้นเคลื่อนที่ได้
ข้อดีในการใช้งาน
1. เมื่อแผ่นกั้นยกเลื่อนขึ้น แท่นหัวอัดจะไม่เคลื่อนตัวลงมาเด็ดขาด ทำให้ปลอดภัย
2. ตราบใดที่แผ่นกั้นปิดไม่สนิท เครื่องจะไม่ทำงาน
3. ปรับปรุงเพื่อเปลี่ยนแบบเป็นวิธีอื่นๆ ได้
ข้อจำกัดในการใช้การ์ดนี้
1. หากกลไกควบคุมคลัทช์บกพร่อง แผ่นกั้นอาจไม่สามารถล็อกชุดหัวอัดมิให้เคลื่อนตัวลงมาได้
2. หากออกแบบไว้ไม่เหมาะสม อาจกดลงด้วยแรงมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อคนคุมเครื่องโดยตรง
7. การใช้แผ่นกั้นแบบอยู่กับที่แผ่นกั้นแบบนี้เป็นได้ทั้งโลหะ แผ่นพลาสติก ตะแกรงลวดหรือตะแกรงเหล็กที่มีขนาดเล็ก พอที่จะไม่ให้มือลอดผ่านได้เหมาะสมกับเครื่องที่มีกำลังการทำงานจำกัด ชิ้นงานมีความเปลี่ยนแปลงขนาดไม่มาก ตัวอย่างที่เหมาะสมคือ เครื่องตัดโลหะแผ่นซึ่งจะตัดโลหะที่ความหนาจำกัด จะเปลี่ยนเฉพาะขนาดความกว้างเท่านั้นดังนั้นสามรถติดตั้งแผ่นกั้นอย่างถาวรได้ โดยทิ้งช่องห่างของทางเข้าออกมีค่าที่ปลอดภัย
8. การใช้แผ่นกั้นชนิดพับได้
9. การใช้คนเจ็บเป็นตัวป้องกันอันตรายหลักการคือ คนงานที่ได้รับอันตรายจะหมดสติ จะต้องกระโดดหรือเคลื่อนที่ตำแหน่งเท้าไปจากเดิม ดังนั้นตำแหน่งวางเท้าใช้ควบคุมเครื่องได้ คนงานจะเหยียบคันบังคับที่เท้าข้างใดก็ได้เครื่องจึงจะทำงานเมื่อประสบอันตรายปล่อยขาเหยียบจะหยุดทำงานทันที
10. ใช้เครื่องมือจับชิ้นงานป้อนแทนมือซึ่งอาจจะเห็นว่าถนัดสู้ใช้มือไม่ได้แต่ในระยะแรกอาจไม่ชำนาญแต่เมื่อเวลาผ่านไปจนทำงานชำนาญแล้ว ความรวดเร็วจะใกล้เคียงกันมากเครื่องมือจับชิ้นงานอาจประกอบด้วย ตะขอเกี่ยว คีมคีบ คีมหนีบ แผ่นแซะหัวจับด้วยแม่เหล็ก หัวจับด้วยสุญญากาศ
ปัจจัยในการพิจารณาในการเลือกใช้เครื่องมือจับชิ้นงาน
1. ออกแบบเครื่องมือให้ใช้สะดวกและถนัดมือที่สุด เช่น น้ำหนักเบา ได้ศูนย์ มีด้ามจับสะดวก หยิบง่าย
2. คีมหนีบแบบต่างๆ ควรติดสปริงคายไว้ เพื่อให้คีมคายปากคีบออกได้เองเมื่อปล่อยมือออก
3. เพื่อลดความสึกหรอของแม่พิมพ์หรือขอบชิ้นงานตรงปลายหนีบของคีมจับควรสวมต่อด้วยวัสดุอ่อน ที่เหมาะสม
4. วัสดุที่ใช้ทำคีมควรคงทนต่อสภาพการใช้งาน โดยเฉพาะตรงปากจับไม่ควรเป็นสนิม
|